คอลัมน์ เล่าเรื่องพลังงาน:

ทิศทางราคาน้ำมันไทยในปี 2567 จะไปทางไหน (1)

โดย วีระพล จิรประดิษฐกุล

เผยแพร่ทาง นสพ.ไทยโพสต์

ฉบับวันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2567

...

ทิศทางราคาน้ำมันไทยในปี 2567 จะไปทางไหน (1)

ในปี 2566 ราคาน้ำมันดิบดูไบได้ปรับตัวลดลงจากปี 2565

โดยราคาน้ำมันดิบดูไบในช่วงครึ่งปีแรก 2566 อยู่ในระดับ

80 ดอลลารัสหรัฐ/บาร์เรล หลังจากนั้นช่วงตันเดือนตุลาคม

เกิดสงครามอิสราเอล-ฮามาส ทำให้ราคาน้ำมันดิบดูไบมา

อยู่ในระดับ 90 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล โดยสรุป ผลของ

สงครามอิสราเอล-ฮามาส ทำให้ฉากทัศน์ด้านพลังงานเปลี่ยนแปลงไป

อย่างมีนัยสำคัญ กล่าวคือ ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น

กว่า 5 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ราคาก๊าซธรรมชาติเหลวเพิ่มขึ้น 5-6

ดอลลาร์สหรัฐ/ล้านบีทียู ค่าเงินบาทอ่อนตัวลงจากระดับ 32 -34 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ มาอยู่ที่ 36-37 บาพ/ดอลลาร์สหรัฐ

::ตรึงราคาน้ำมัน

รัฐบาลได้เริ่มเข้ามาแทรกแซงราคาน้ำมันตั้งแต่ปลายปี 2564

โดยพยุงราคาน้ำมันดีเซลไว้ไม่เกิน 30 บาท/ลิตร ใช้กลไกกองทุน

น้ำมันเชื้อเพลิง แต่หลังจากเกิดสงครามรัสเชีย-ยูเครน ราคาน้ำมัน

ได้ปรับตัวสูงขึ้นมาก รัฐบาลพยายามกดราคาดีเชลไว้ไม่ให้เกิน 30

บาท/ลิตร โดยใช้ทั้งการลดภาษีสรรพสามิตและกองทุนน้ำมันฯ แต่

เนื่องจากราคาน้ำมันปรับตัวสูงมาก จนกระทั่งกองทุนฯ ติดลบจำนวน

มาก ทำให้ต้องทยอยปรับราคาขายปลีกขึ้นจาก 30 บาท/ลิตร เป็น 32

บาท/ลิตร และสุดท้าย 35 บาท/ลิตร ในขณะเดียวกันก็ต้องทยอยขึ้น

ราคาก๊าซ LPG จาก 363 บาท/ถัง 15 กก. ทีละ 1 บาท/กก. จำนวน

4 ครั้ง จนกระทั่งขยับมาอยู่ที่ 423 บาท/ถัง 15 กก.ในปัจจุบัน

กองทุนได้อุดหนุนจนติดลบถึงกว่า 130.000 ล้านบาท จนรัฐบาลต้อง

ออกเป็นพระราชกำหนดกู้เงินในปี 2565 จำนวน 150,000 ล้านบาท

เพื่อมาใช้หนี้กองทุนน้ำมันฯ

หลังจากรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารประเทศในช่วงวันที่ 12

กันยายน 2566 รัฐบาลมีนโยบายลดราคาดีเซลจาก 32 บาท/ลิตร

เหลือ 30 บาทลิตร โดยวิธีลดภาษีสรรพสามิต 2.50 บาท/ลิตร และ

ใช้กองทุนอุดหนุนไว้ไม่ให้เกิน 30 บาท/ลิตร นอกจากนี้รัฐบาลยังมี

นโยบายลดราคาน้ำมันเบนชิน โดยลดกาษีสรรพสามิต 1 บาท/ลิตร

และใช้กองทุนน้ำมันฯ ปรับลดลง ทำให้ราคาน้ำมันเบนชิน 91 ลดลง

2.50 บาท/ลิตร และกลุ่มน้ำมันเบนซินชนิดอื่นๆ ลดลง 1.00 บาท/

ลิตรตามอัตราส่วนผสมของน้ำมันเบนชิน และในวันที่ 7 พฤศจิกายน

2566 รัฐบาลก็ได้ตรึงราคาก๊ซ LPG ไว้ที่ 423 บาท/ถัง 15 กก.จนถึง

สิ้นปี 2566 ทำให้ในปัจจุบันกองทุนน้ำมันฯ มีเงินไหลออก 3,000-

4,000 ล้านบาท/เดือน

อนึ่ง ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในวันที่ 31 ธันวาคม 2566

กองทุนติดหนี้น้ำมันเชื้อเพลิง 32,444 ล้านบาท ติดหนี้ค้าง LPG

46,113 ล้านบาท รวมกองทุนฐานะติดลบ 78,557 ล้านบาท

:: ราคาน้ำมันในปี 2567 จะไปทางไหน

แนวโน้มราคาน้ำมันในปี 2567 นั้นยังมีความผันผวนและไม่แน่นอน 

โดยทางสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาล

สหรัฐ (EIA) คาดว่า ความต้องการน้ำมันจะสูงกว่าการผลิตในช่วง

ปลายปี 2566 ต่อเนื่องมาจนถึงปี 2567 เป็นแรงกดดันให้ราคาน้ำมัน

ในปี 2567 อยู่ในระดับสูง โดยคาดว่าแนวโน้มราคาน้ำมันดิบเบรนท์

จะอยู่ที่ 94.91 ดอลลาร์/บาร์เรล ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) 

จะอยู่ในระดับ 90.91 ดอลลาร์/บาร์เรลในปี 2567

ในขณะที่กลุ่ม ปตท. (PRISM Experts) คาดว่า ราคาน้ำมันดิบ

ในปี 2567 จะอยู่ในระดับ 75-85 ดอลลาร์/บาร์เรล ทั้งนี้ยังมีปัจจัยที่

ไม่แน่นอนจากนโยบายการควบคุมกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกพลัส

มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน ความขัดแย้งทางการเมือง และ

การดำเนินโยบายการเงินที่เข้มงวดของกลุ่มประเทศตะวันตกในการ

ควบคุมเงินเฟ้อ รวมทั้งการแสวงหาโอกาสและแนวทางการปรับตัว

ของกลุ่มพลังงานในยุคการเปลี่ยนแปลงพลังงาน (Energy Transition)

ซึ่งจะเห็นว่า โดยสรุปแล้วราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกยังอยู่ในระดับ

สูง 80-90 ดอดลาร์/บาร์เรล ซึ่งจะกระทบกับนโยบายลดราคา

พลังงานของรัฐบาล ทั้งราคาน้ำมันและค่าไฟฟ้า.

(โปรดอ่านตอนต่อไป)